หลังจากได้เจ้า Samsung Galaxy S6 มาใช้สักพัก ผมก็เริ่มลองหาเสาะแสวงหาอุปกรณ์ชาร์จไร้สายเพื่อมาลองใช้งาน
ที่ต้องใช้คำว่า “เสาะแสวงหา” ก็เพราะเจ้าตัวแท่นชาร์จไร้สายของซัมซุงนั้นหายากจริงๆ ครับ ทั้งใน Online Store และร้านซัมซุงตามห้างก็หาไม่ค่อยมี โดยส่วนใหญ่ระบุว่าของหมด/ไม่มีของเข้า ทั้งๆ ที่ราคาก็สูงเอาการอยู่คือ 1,690 บาท
ผมไปเจออยู่ที่นึงว่ามีของคือในเว็บไซต์ของ Jaymart แต่ก็ไม่ได้สั่งซื้อ เพราะวางจำหน่ายในราคาเต็ม และเผอิญไปพบเจออีกทางเลือกหนึ่งก็คือในเว็บไซต์ลาซาด้าที่มีขาย Qi Wireless Charger Charging Pad for Samsung Galaxy S6/S6 Edge ในราคาเพียง 249 บาท!!!
สำหรับราคา 249 บาท (ลดจาก 1,150 บาท) นั้น รวมค่าจัดส่งจากต่างประเทศถึงประตูบ้านเรา เสียอย่างเดียวคือต้องรอสินค้าประมาณหนึ่งเดือน … เห็นอย่างนี้ก็สั่งสิครับ จะรออะไรอยู่
หลังจากที่รบกวนให้ภรรยาซึ่งสั่งซื้อผ้าอ้อมลูกทางลาซาด้าเป็นประจำกดสั่งและจ่ายเงินไปเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559 ทางระบบของเว็บไซต์ก็แจ้งมาว่าของจะได้ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2559 โน่นเลย เพราะต้องจัดส่งมาจากต่างประเทศ (ก็คือจีนนั่นแหละ) นอกจากนี้หลายเดือนที่ผ่านมาเจ้าเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์เจ้านี้ยังตกเป็นข่าวหนาหูด้วยว่า กดสั่งของอย่างหนึ่งแต่ได้รับของอีกอย่าง เช่น ภรรยาของผมเคยเจอกับตัวว่าสั่งแผ่นสติกเกอร์แปะกันยุงลูก แต่กลับได้แท่นหมึกปรินเตอร์เลเซอร์มาแทน ซะงั้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวผมคิดว่าแค่ 249 บาท ก็น่าลองดูไม่เห็นเป็นไร
หลังจากสั่งซื้อไปจนลืม ในที่สุดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 เจ้าซองเล็กๆ ก็มาส่งที่บ้าน อย่างเรียบร้อยไม่แตกหักเสียหาย รวมแล้วตั้งแต่กดสั่งไปใช้เวลาเพียง 16 วันเท่านั้น ไม่ใช่เดือนกว่าๆ อย่างที่แจ้งมาในตอนแรก
เมื่อมาถึงแล้วก็ลองแกะมาดูกันเลยดีกว่ากับเจ้า Qi Wireless Charger ราคาเพียง 249 บาท ซึ่งถ้าหักค่าขนส่ง กับค่าจัดจำหน่ายแล้ว ผมว่าเจ้า Qi Wireless Charger ตัวนี้ราคาต้นทุนคงไม่ถึงร้อยบาท นี่เองทำให้ต้องมาดูกันว่าจะใช้ได้จริงหรือไม่ และคุณภาพเป็นอย่างไร?
เมื่อแกะห่อส่งของออกมาแล้ว ข้างในก็จะมีซองพลาสติกใสห่ออีกชั้นหนึ่ง ภายในก็มี
1.แท่นชาร์จไร้สาย Wireless Charger Pad สีดำ (จริงๆ มีสองสีให้เลือกคือ ขาว กับ ดำ)
2.สายยูเอสบี USB Power Cord ข้างหนึ่งเป็น USB 2.0 อีกข้างเป็น micro USB
3.คู่มือการใช้งาน User Manual ภาษาอังกฤษ แผ่นเล็กๆ รวมแล้ว 8 หน้าสั้นๆ
ดูแท่นชาร์จไร้สาย (แน่นอนไม่มีโลโก้ Samsung เพราะตัวต้นฉบับนั้นราคาขาย 1,690 บาท) เป็นแท่นสีดำ ทำจากพลาสติกทึบแข็ง ไม่มีโลโก้ใดๆ ทั้งสิ้น โดยมีพลาสติกใสครอบทับอีกชั้น (ซึ่งแกะไม่ได้และอย่าแกะนะครับ) ส่วนด้านหลังระบุข้อความว่า
Wireless Charging Pad
Input : DC5V-2000mA
Output : DC5V-1000mA
Made in China
สายยูเอสบีก็ปกติทั่วไป ขณะที่คู่มือระบุว่า เป็นเครื่องชาร์จแบบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า Electromagnetic induction model from close range มาตรฐาน Qi ซึ่งประสิทธิภาพทำงานภายใน 1-8 มิลลิเมตร โดยใช้ได้กับมือถือซัมซุง โนเกีย เอชทีซี กูเกิล ที่รองรับมาตรฐาน Qi โดยวิธีชาร์จนั้นก็ง่ายดาย โดยเสียบเข้ากับหัวปลั๊กยูเอสบี คอมพิวเตอร์ หรือ External Battery ก็ได้ ทั้งยังปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลว่าเด็กจะได้รับอันตรายจากไฟดูด
ในส่วนของ Security and stability of circuit design ระบุด้วยว่าเจ้าแท่นชาร์จไร้สายตัวนี้ มีชิปอัจฉริยะที่จะตัดไฟทันทีเมื่อยกมือถือออกจากแท่น และเข้าสู่ standby mode โดยอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่มือถือใกล้เต็ม คือเมื่อโหมดการชาร์จถูกเปลี่ยนจาก Fast Charge เป็น Trickle Charge
อธิบายเพิ่มนิดหนึ่งคือ ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือจะแบ่งวิธีชาร์จออกเป็นสองระยะคือ Fast Charge และ Trickle Charge คือ
ระยะที่ 1 (Fast Charge) : จะเป็นระยะของการชาร์จด้วยกระแสไฟแบบคงที่เต็มพิกัด จนเซลล์ของแบตเตอรี่ได้รับแรงดันไฟ จนถึงระดับที่กำหนดหรือประมาณ 80% (เกือบเต็ม) ซึ่งระยะนี้จะคล้ายกับว่า เป็นการชาร์จด้วยอัตราเร่งนั่นเอง จากนั้นจะค่อยๆ เติมประจุให้กับส่วนที่เหลือ จนทุกๆ เซลล์ของแบตเตอรี่ได้รับระดับแรงดันไฟสูงสุดจนเต็ม ระหว่างนี้กระแสไฟที่ถูกชาร์จเข้าไปยังเซลล์ของแบตเตอรี่จะค่อยๆ ลดลง
ระยะที่ 2 (Trickle Charge) : จะเป็นระยะที่กระแสไฟจะค่อยๆ ลดลง จนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 3% ของอัตรากระแสเฉลี่ย และจะถูกตัดการชาร์จไปในที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการถนอมการใช้งานแบตเตอรี่นั่นเอง จะสังเกตได้ว่าหากเรานำมือไปสัมผัสกับแบตเตอรี่ในระหว่างที่ทำการชาร์จไฟ หากอยู่ในระยะที่ 1 จะรู้สึกได้ว่าร้อน แต่เมื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 แล้ว จะรู้สึกได้ว่าเย็นลง
ทั้งนี้ในการทำงานของแท่นชาร์จไร้สาย เมื่อต่อสายยูเอสบีเข้ากับแท่น และแหล่งจ่ายไฟ ที่ด้านหน้าแท่น (ตรงข้ามกับจุดต่อไฟ) จะมีไฟแอลอีดี (LED) สีน้ำเงินกะพริบขึ้น 3 ครั้ง แสดงว่าใช้งานได้แล้ว และพร้อมวางโทรศัพท์ลงไปได้ทันที ซึ่งการมีไฟแอลอีดีบอกสถานะนั้นถือว่าช่วยทำให้สินค้าหลักร้อยดูมีราคาเขยิบขึ้นเป็นหลักพันได้ไม่ยากจริงๆ
เมื่อลองวางเจ้า Samsung Galaxy S6 ลงไป บนหน้าจอของมือถือก็จะขึ้นข้อความว่า Charging Wirelessly คือ กำลังชาร์จแบบไร้สายอยู่นะ พร้อมกับบอกเปอร์เซ็นต์ด้วยว่าชาร์จไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว
สรุป : เท่าที่ลองใช้เจ้าตัว Wireless Charging Pad นั้นพบว่าสะดวกสบายในการใช้งาน แม้จะชาร์จไฟได้ช้ากว่าแบบสายอยู่พอสมควร แต่ก็ถือว่าไม่ใช่อุปสรรค นอกจากนี้เมื่อผมลองถามพี่สาวซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องแบตเตอรี่ก็บอกว่าการยกมือถือเข้าๆ ออกๆ จากแท่นชาร์จไร้สายก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรนักกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ ขณะที่ความเสี่ยงจากที่แบตเตอรี่จะบวม จะระเบิดระหว่างการชาร์จอย่างที่เห็นข่าวเป็นประจำก็มีน้อยกว่าวิธีการชาร์จแบบสายเยอะ
ส่วนคุณภาพและประสิทธิภาพของเจ้าแท่นชาร์จไร้สายราคาไม่ถึง 250 บาทอันนี้ เมื่อใช้กันยาวๆ แล้วจะเป็นอย่างไร ไว้มีโอกาสจะนำมาบอกเล่าให้ฟังอีกที
ล่าสุดตั้งแต่ผมเริ่มเขียนบทความตอนแรก พอเข้าไปในเว็บไซต์ลาซาด้าอีกครั้ง พบว่าเจ้า Qi Wireless Charger Charging Pad for Samsung Galaxy S6/S6 Edge ตัวเดียวกันนี้ขึ้นราคาอีก 100 บาท เป็น 350 บาทเสียอย่างนั้น ถ้าใครสนใจแท่นชาร์จไร้สายราคาย่อมเยาก็ลองสั่งมาลองใช้กันดูครับ ^_^
No Comments so far ↓
Like gas stations in rural Texas after 10 pm, comments are closed.